การนำเสนอเนื้อเรื่อง หรือตัวข่าว (Body) คือการนำเสนอส่วนที่ให้รายละเอียดของเหตุการณ์
หรือเรื่องราวแก่ผู้อ่าน ทำให้ผู้อ่านเข้าใจและติดตามเหตุการณ์ทั้งหมด
โดยผู้เขียนข่าวสามารถเลือกรูปแบบการเขียนข่าวที่มีอยู่หลายรูปแบบมาเป็นแนวทางได้
อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบัน
การเขียนข่าวโดยรูปแบบปิรามิดหัวกลับได้รับความนิยมมากที่สุด
1.
การเขียนข่าวแบบปิรามิดหัวกลับ (Inverted - Pyramid Style) เป็นการเขียนโดย
นำเอาเหตุการณ์ที่สำคัญที่สุดขึ้นมาก่อน
แล้วจึงตามด้วยเรื่องราวที่มีความสำคัญรองลงไปตามลำดับ เป็นการกระตุ้นให้ผู้อ่านได้ทราบรายละเอียดของเหตุการณ์นั้น
การเขียนข่าวแบบปิรามิดหัวกลับเป็นรูปแบบการเขียนข่าวที่เหมาะกับยุคสมัยที่เป็นยุคสังคมข่าวสาร
มีข่าวข่าวสารมากมาย ในขณะที่ผู้อ่านมีเวลาน้อยมาก
การบอกใจความสำคัญของข่าวไว้ตั้งแต่ต้นจึงเป็นรูปแบบการอ่านข่าวที่ผู้อ่านคุ้นเคย
จึงทำให้เป็นรูปแบบการเขียนข่าวที่ได้รับความนิยมสูงสุดมาจนถึงปัจจุบันนี้
นอกจากนั้น การเขียนข่าวโดยทั่วไปยังมีรูปแบบอื่นๆ อีก เช่น
แบบปิรามิดหัวตั้ง (Upright Pyramid Style) เป็นรูปแบบการเขียนข่าวที่ตรงกันข้ามกับแบบแรก
กล่าวคือ จะเริ่มจากการกล่าวถึงข้อเท็จจริงที่มีความสำคัญน้อย แล้วค่อยๆ
นำเสนอข้อเท็จจริงที่มีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ
จนถึงย่อหน้าสุดท้ายที่มีความสำคัญที่สุด หรืออาจนับได้ว่าเป็นช่วง “ไขประเด็นข่าว” (climax) ก็ว่าได้
ในปัจจุบันหนังสือพิมพ์มักนำรูปแบบการเขียนข่าวปิรามิดหัวตั้งมานำเสนอข่าวสั้น
รูปแบบการเขียนข่าวแบบปิรามิดหัวตั้งนี้
เคยใช้กันมาในการเขียนข่าวแบบเก่าๆ อย่างไรก็ตาม
การเขียนข่าวแบบนี้ยังใช้อยู่ในปัจจุบันกับเหตุการณ์พิเศษ
ที่มีรายละเอียดมากเกินกว่าจะสรุปข้อเท็จจริงสำคัญทั้งหมดไว้ในย่อหน้าแรก
หรือมิฉะนั้นก็ใช้กับเหตุการณ์ที่มีเงื่อนงำสูง
เพื่อสร้างความสนเท่ห์ให้แก่ผู้อ่าน
ก่อนที่จะคลี่คลายคำตอบให้ทราบในตอนจบของเรื่อง (เนชั่นมัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน),
บริษัท, ม.ป.ป.)
ในการเขียนข่าวเพื่อการประชาสัมพันธ์จะต้องบอกรายละเอียดเกี่ยวกับหน่วยงาน
ผู้รับผิดชอบงานประชาสัมพันธ์ขององค์กรไว้ในท้ายข่าวด้วยเสมอ เช่น
หมายเลขโทรศัพท์ที่ติดต่อได้โดยสะดวก
เพื่อที่ผู้สื่อข่าวสามารถติดต่อขอทำความเข้าใจหรือขอข้อมูลเพิ่มเติมได้
2.
การเขียนข่าวแบบนาฬิกาทราย (Hourglass Style) เป็นการเขียนเนื้อเรื่องโดยเปิดเรื่องด้วยใจความสำคัญของเรื่องในย่อหน้าแรกๆ
แบบเดียวกันกับแบบปิรามิดหัวกลับ หลังจากนั้น
จะเรียงลำดับข้อมูลที่มีความสำคัญลดลงไปลำดับ
จนถึงย่อหน้าที่จะเริ่มเล่าตามลำดับเวลาของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น (Chronological Accounts) รอย ปีเตอร์ คลาร์ค (Roy Peter Clark) นักวิชาการศึกษาด้านสื่อแห่งสถาบันพอยเตอร์
(The Poynter Institue) ในเซ็นต์ พีเตอร์สเบิร์ก (St.
Petersburg) เรียกรูปแบบการเขียนข่าวแบบนี้ว่า “แบบนาฬิกาทราย” (Hourglass Style) (Itule and Anderson, 1994,
p.110 - 113)
ลักษณะเด่นของรูปแบบการเขียนข่าวแบบนาฬิกาทราย คือ
ผู้ปฏิบัติงานประชาสัมพันธ์สามารถเขียนบรรยายได้มาก
โดยเฉพาะการเน้นย้ำข้อมูลที่มีความสำคัญ ทำให้ผู้อ่านสามารถเข้าใจข้อมูลได้มากกว่า
รวมทั้งเป็นรูปแบบการเขียนที่ทำให้โครงสร้างของน้ำหนักของข้อมูลที่นำเสนอมีความสมดุลตลอดทั้งเรื่อง
รูปแบบการเขียนข่าวแบบนาฬิกาทรายจึงเปรียบเสมือนทางเลือกของผู้ปฏิบัติงานประชาสัมพันธ์ที่เบื่อรูปแบบการเขียนที่นิยมกันทั่วไปคือรูปแบบการเขียนแบบปิรามิดหัวกลับ
แบบความนำผนวกกับเนื้อข่าวที่มีข้อเท็จจริงสำคัญเท่าเทียมกัน (Lead-plus-equal-facts)
การเขียนข่าวรูปแบบนี้มีลักษณะพิเศษที่ไม่ถูกจำกัดด้วยความสั้น-ยาวด้วยพื้นที่ที่จะตีพิมพ์
เนื่องจากรายละเอียดของแต่ละข้อมูลในเหตุการณ์นั้นมีความสำคัญเท่าเทียมกันหมด
และแต่ละข้อมูลยังมีเหตุผลสนับสนุนซึ่งกันและกันอยู่
การเขียนข่าวรูปแบบนี้ในย่อหน้าแรกมีความนำที่สรุปย่อข้อเท็จจริงทั้งหมดเอาไว้
เช่นเดียวกับความนำในปิรามิดหัวกลับ ส่วนเนื้อข่าวจะอธิบายรายละเอียดของข้อมูล
โดยไม่เรียงลำดับความสำคัญของข้อมูลนั้นๆ แต่จะเรียงลำดับความเป็นเหตุเป็นผลสนับสนุนซึ่งกันและกันอยู่
(สิริทิพย์ ขันสุวรรณ, 2543 น.139-140)
ข้อมูล สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์ http://thainews.prd.go.th/AboutUs/km042.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น